การขอใบรับรองนักวิจัย ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ดำเนินงานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เพื่อใช้ประกอบการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัยในระบบ NRIIS / ORIIS |
|
ตามที่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับสารเคมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ ด้วยการพัฒนาเครื่องมือสนับสนุนด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรทุกประเภทมาอย่างต่อเนื่อง วช. ในฐานะองค์กรกลางซึ่งมีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานและจริยธรรมการวิจัยตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ได้จัดทำนโยบายและการขับเคลื่อนด้านความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับสารเคมี (พ.ศ.2566-2570) เพื่อความต่อเนื่อง และครอบคลุมสารเคมีและวัตถุอันตรายในห้องปฏิบัติการทั้งสถาบันการศึกษาและองค์กรของรัฐ |
ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการด้านสารเคมีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล วช. จึงกำหนดให้นักวิจัยที่ยื่นเสนอข้อเสนอโครงการวิจัยที่มีการดำเนินงานในห้องปฏิบัติการด้านสารเคมี ต้องกรอกข้อมูลห้องปฏิบัติการหลักที่ใช้ดำเนินการวิจัยในใบรับรองนักวิจัยที่ดำเนินงานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เพื่อใช้ประกอบการขอรับทุนสนับสนุนการวิจัยในระบบ NRIIS / ORIIS โดยมีข้อกำหนดดังนี้ |
1. ห้องปฏิบัติการที่นักวิจัยดำเนินการวิจัยต้องลงทะเบียนในระบบ ESPReL และมีผลคะแนน ESPReL Checklist เฉลี่ยรวม 7 ด้าน (ผลการประเมินต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันที่ยื่นเอกสารขอใบรับรอง) 2. นักวิจัยต้องผ่านการอบรมด้านมาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการตามระบบ ESPReL (มีอายุไม่เกิน 3 ปี นับตั้งแต่วันยื่นขอใบรับรอง) โดยสามารถเข้าอบรมผ่านแบบเรียนออนไลน์ด้านมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ https://elearning-labsafety.nrct.go.th/ ได้ 3. นักวิจัยสามารถกรอกข้อมูลในส่วนของการตรวจประเมินและรับรองในรูปแบบ Peer Evaluation หรือ มาตรฐาน มอก.2677 - 2558 เพิ่มเติมได้ (ถ้ามี) 4. ใบรับรองนักวิจัยฯ ต้องมีหัวหน้าห้องปฏิบัติการ และหัวหน้าศูนย์ที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงนามเพื่อรับรองนักวิจัยว่าได้ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการนั้นจริง |
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() |










